K20A & K24A
เครื่องยนต์ตะกูล K-Series ผู้ผลิตก็คือบริษัท HONDA ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเป็นเครื่องที่มีความนิยมมากในยุคปี ค ศ 2002-2011 เพราะเครื่องยนต์ตัวนี้ถูกบรรจุหลายๆรุ่น เช่น Civic, Accord, Odyssey หรือไม่ก็ Acura TSX นั่นก็แสดงว่าทาง HONDA ได้ทำการผลิตเครื่องยนต์ K-Series บล๊อก เพื่อใช้กับรถยนต์ที่ผลิตในช่วงปีที่กล่าวมาหลายรุ่น แสดงว่ามีความนิยมและตอบรับในด้ายการตลาดพอสมควร และตอนไปเดินเชียงกงก็จะพบเครื่องยนต์รุ่นนี้เข้ามาในตลาดบ้านเราพอสมควร บางท่านก็เอาไปลงในบอดี้ Accord Gen5, Civic หรือรุ่นอื่นที่นำไปติดตั้ง แล้วเราจะรู้ได้ยังไงระหว่างเครื่อง K20A และ K24A มันต่างกันอย่างไร จะปรับเปลี่ยนมาใช้กันได้หรือเปล่ามาดูกัน
อะไรบ้างที่แตกต่างระหว่าง K20A และ K24A
กระบอกสูบ
ความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์ K20A จะมีความจุ 2000cc ส่วน K24A จะมีความจุที่ 2400cc ซึ่งจะแตกต่างในเครื่องของการบริโภคเชื้อเพลิงที่แตกต่างกัน ซึ่งเครื่องยนต์ K24A จะสิ้นเปลื่องมากกว่า เท่าที่สังเกตุ K20A จะนิยมบรรจุในรถที่แบกน้ำหนักไม่มาก เช่น Civic เป็นต้น ซึ่งตัวที่ดีที่สุดใช้ในการแข่งคือ Civic Type R มีแรงม้าสูงสุดถึง 221 แรงม้า ส่วนตัวที่บรรจุใน Accord จะเป็นตัว 155 hp ที่ส่งขายในตลาดยุโรป ซึ่งสังเกตุว่าเครื่องยนต์ที่ส่งขายทางยุโรปเครื่องยนต์จะมีแรงม้าที่ไม่แรง เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วน K24A จะเน้นไปที่รถที่มีบอดี้ขนาดใหญ่ เพราะว่าต้องการแรงขับเคลื่อนที่สูงช่วงออกตัว(Torque) ซึ่งจะสังเกตุว่าจะลงในบอดี้ Accord,Odyssey เป็นหลัก ซึ่ง HONDA เลือกลงในบอดี้ใหญ่ก็จะเพิ่มความจุกระบอกสูบให้ใหญ่ขึ้น
Piston stroke (ช่วงชัก)
ช่วงชักมีส่วนสำคัญสำหรับรถ ถ้าเป็นรถที่ช่วงชักยาวจะเป็นรถที่เน้นประหยัดไม่เน้นรอบสูง จึงใช้กำลังอัดต่ำ ซึ่งใน K24A ช่วงชักอยู่ที่ 99 มิลลิเมตร แต่ของ K20A ช่วงชักอยู่ที่ 86 มิลลิเมตร เท่านั้น ซึ่งช่วงชักจะมีผลมากสำหรับรถที่ต้องการรอบสูงในช่วงออกตัว แต่ไม่เหมาะกับช่วงความเร็วสูงมาก ซึ่งช่วงชักยาวจะได้เปรียบช่วงนี้ จะเห็นว่าเสื้อสูบของ K20A จะสั้นกว่า K24A อยู่ ประมาณ 13 มิลลิเมตร
Oil Jet Spray
จะมีใน K20A ตระกูล type R คือ คือตัวหัวฉีดที่จะคอยฉีดน้ำมันเครื่องเข้าไปที่ใต้ลูกสูบโดยตรงเพื่อเป็นการระบายความร้อนเนื่องจากรอบสูง เพราะลูกสูบต้องระบายความร้อนรอบสูง ซึ่งจะทำให้ลูกสูบคลายความร้อนได้ทันเวลาและไม่ติด ซึ่งสังเกตุว่าจะมีเฉพาะรถที่ใช้สำหรับแข่งเป็นหลัก
ยังมีส่วนอื่นของ Oil Jet ที่ต้องเพิ่มเติ่มที่ต้องการอัพเกรตจาก K24A ไปเป็น K20A ก็คือ ต้องหาออย์ปั้มเพื่อฉีดน้ำมัน
head(ลูกสูบ)
ด้วยขนาดของลูกสูบของ K24A เอง เฉพาะบางรุ่น (ตัวแรงสุด) อัตราส่วนแรงบีบอัดของกระบอกสูบคือ 10.5.1 แต่อัตราส่วนแรงบีบอัดของ K20A เฉพาะบางรุ่น (ตัวแรงสุด) อัตราส่วนแรงบีบอัดของกระบอกสูบคือ 11.5.1 ซึ่งแรงอัดสูงทำให้เกิดแรงระเบิดรุ่นแรงเมื่อเทียบกับแรงอัดต่ำ นั้นก็หมายความว่า K20A จะให้อัตราเร่งที่ดีเมื่อเทียบกับ K24A ซึ่งถ้าจะอัพเกรตเป็นจาก K24A ไปเป็น K20A ก็ต้องเปลี่ยน ลูกและก้าน ด้วย
Camshaft(เพลาลูกเบี้ยว)
เนื่องจากเพลาลูกเบี้ยว ทำหน้าที่เปิดลิ้นไอดีเพื่อนำส่วนผสมของอากาศและเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ และเปิดลิ้นไอเสียเพื่อนำอากาศเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ออกสู่ท่อไอเสีย ดังนั้นการที่ช่วงชักของลูกสูบที่ต่างกันขนาดช่วงชักที่ต่างกันเพลาลูกเบี้ยวย่อมต่างกัน เพราะอัตราบีบอัดเปลี่ยน ช่วงชักเปลี่ยน ย่อมทำให้แคมต้องเปลี่ยนตามไม่งั้นเครื่องยนต์อาจจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์ กำลังที่ได้ก็น้อยตามไปด้วย
แนะนำ
ถ้าจะอัพเกรตเป็น K20A จาก K24A แนะนำให้เปลี่ยนทอนบนไปเลย จะได้แคม K20A ฝาแดง และ หาอะไหล่ แผ่นปิด ข้อเหวี่ยง K20A ฝาแดง ออยเจ๊ต (ปั๊มน้ำมันเครื่อง K20A ฝาแดง) ตามภาพ ลูกสูบ และอีกหลายรายการ
สรุป
จากข้อแตกต่างที่กล่าวมาที่ผมยกตัวอย่างเป็นเพียงบางข้อที่ยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพกว้างๆ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยต้องปรึกษาช่างเครื่องยนต์ที่รับ Modify นะครับ ซึ่งจากที่ให้ข้อมูลมาจะเห็นว่า จะมีให้เลือกอยู่สองทางคือต้องการออกตัวได้ไว แนะนำ K20A เพราะช่วงชักที่สั้นและอัตราส่วนก็เยอะกว่า ทำให้รถแรงกว่า แต่ ถ้าลงในบอดี้ที่ใหญ่มากก็ไม่แนะนำเพราะมีขนาด แค่ 2.0L เช่น Civic ซึ่งถ้าเป็น K24A ซึ่งมีขนาด 2.4L ซึ่งจะเห็นว่าจะให้กำลังที่มากในช่วงออกตัว จะเห็นว่าจะนำไปลงในบอดี้ใหญ่ เช่น Accord หรือ Odyssey นั้นคือความแตกต่าง แต่ข้อด้อยก็คือ อัตราเร่งช่วงออกตัวอาจจะไม่ดีเท่า K20A
หวังว่าคงได้รับประโยชน์นะครับ